เก็บสตรอว์เบอร์รี่ ที่เขาค้อ

วันนี้จะมาเล่าทริปการเดินทางไกล ประมาณ 8 ชั่วโมง จากจังหวัดกาญจนบุรี ไปยังเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ปีนั้นเดือนทางตอนตรุษจีน ค่าน้ำมันไปกลับปีนั้นถือว่าโหดมาก เพราะมากเพราะน้ำมันลิตรละ 40 บาท บอกเลยค่าน้ำมันเติมไปเติมกลับ ประมาณ7-8พันบอกเลย ค่ารีสอร์ทเข้าพัก ห้องละ 4,200 บาท เราพักเมื่อไปถึง ไม่มีการจองล่วงหน้า แม้กระทั่งจองออนไลน์ เพราะเราไปช่วงตรุษจีน ห่างจากช่วงหยุดยาวปีใหม่พอสมควรนะครับ ซึ่งคนเขาเลิกเที่ยวกันแล้วนั่นเอง ปีใหม่ๆ หรือช่วงต้นปี ถ้าเราอยากไปพักผ่อน หรือชาร์จพลังงานให้กับชีวิต แนะนำให้ไปเที่ยวภาคเหนือครับ ช่วงเดือนมกราคม เดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี เพราะภาคเหนือ ประมาณ เดือนแรก เดือนที่สองของปี อากาศจะหนาวเย็น คือ นอนสบายนั่นแหละ ตื่นมาถ้าเราพักบนยอดดอย ก็จะสามารถตื่นนอนมาตอนเช้า และเห็นทะเลหมอกได้นั่นเองครับ

ประวัติความเป็นมา

เขาค้อ เป็นชื่อสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งตรงเขาค้อนี้มีแหล่งท่องเที่ยวที่คนนิยมไป หลายแห่งมาก และเมื่อก่อน ก็เคยเป็นฐานที่ตั้งของผู้ก่อการร้าย และทหารไทยของเราได้ใช้เขาค้อเป็นฐานที่ตั้ง ต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย จนสามารถต่อสู้และปราบปรามให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทยของเราได้ ปัจจุบันได้มีพิพิธภัณฑ์ฐานอิทธิ ซึ่งได้รวบรวมอาวุธต่างๆ ที่ใช้ในการปราบปรามผู้ก่อการร้าย ในครั้งนั้น เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้ประชาชนได้ดู เมื่อก่อนที่ความเจริญจะเข้ามา ถนนตัดผ่านขึ้นเขาค้อ มีต้นปาล์มชนิดหนึ่ง ชื่อว่าต้นค้อ ขึ้นเต็มไปหมดมีมากมาย บริเวณเทือกเขาแห่งนี้ จึงเป็นที่มาของเขาค้อนั่นเองครับ ฤดูร้อนก็จะร้อน พอตกกลางคืนก็จะเย็นสบาย ถ้าเป็นฤดูหนาว ก็จะหนาวเย็นจนตอนเช้าเกิดหมอกปกคลุมไปทั่วเขาค้อ และนักท่องเที่ยวมาจะมาพักที่รีสอร์ท เพื่อตื่นเช้ามืดมาดูทะเลหมอกที่เขาค้อแห่งนี้ และอุดหนุนสินค้าพื้นบ้านจากชาวบ้าน ที่นำมาขายบริเวณจุดชมวิวเขาค้อ และที่แห่งนี้ยังมีไร่สตรอเบอรี่ให้นักท่องเที่ยวได้เก็บสดๆ จากไร่จากสวน คิดราคาตามน้ำหนักที่นักท่องเที่ยวเก็บได้ และมีสตรอเบอรี่แพ็คใส่กล่องจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วยนั่นเองครับ

บรรยากาศโดยรวม

การเดินทางมาเที่ยวเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ในครั้งนี้ เราเดินทางมากันในช่วงตรุษจีน ซึ่งเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเลิกเที่ยว เดินทางกลับบ้านกันหมดแล้ว ดังนั้น การเดินทาง รถราบนท้องถนน ก็ไม่ติดขัด เราไม่ต้องไปเบียดเสียดกับใคร หรือแย่งใครกินแย่งใครเที่ยว แต่ว่า ช่วงตรุษจีนก็จะมีคนไทยเชื้อสายจีน ที่เดินทางท่องเที่ยวเหมือนกับเรา แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นเขาค้อ เพชรบูรณ์ มีสถานที่ท่องเที่ยว แถวนั้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ทุ่งกังหันลมเขาค้อ , วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว , พิพิทธภัณฑ์ฐานอิทธิ, จุดชมวิวเขาค้อ ที่สามารถชมวิวทะเลหมอกได้ในตอนเช้า และเลือกซื้อสินค้าชาวบ้าน สินค้าพื้นเมือง เราสามารถแวะเก็บสตรอว์เบอร์รี่ได้ , ซื้อสตรอว์เบอร์รี่กลับบ้านได้อีกด้วย อากาศที่นี่ ถ้ามาเป็นประจำช่วงต้นปี อากาศจะเย็น ถึงขั้นหนาว เคยไปปีแรก 13 องศา หนาวมาก แต่รีสอร์ทก็จะมีเครื่องทำน้ำอุ่นไว้บริการนักท่องเที่ยวทุกคน ชอบวิวป่าเขา เหมือนเราได้มาพักผ่อนจากการทำงานเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งปี ได้ชาร์จพลังงานเข้าไปใหม่ ได้เจอต้นไม้เขียวขจี ได้พบเจอวิถีชีวิตของชาวบ้านภาคเหนือ ที่ไม่เหมือนกับเรา ไม่ต้องเร่งรีบ ไม่ต้องแข่งขันกับใคร

ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

สำหรับค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาท่องเที่ยวเขาค้อ มาเก็บสตรอเบอรี่ที่เขาค้อ ผมจะคิดตั้งแค่ออกจากบ้าน จากจังหวัดกาญจนบุรีไปเขาค้อจังหวัดเพชรบูรณ์นะครับ ขาไปเติมน้ำมันไปประมาณ 4พันบาท เพราะเติมน้ำมันเบนซิน E20 ซึ่งเติมเต็มถัง และขากลับเติมมาตลอดทาง เจอปั้มที่ไหนก็แวะเติม อีกประมาณ 5พันบาท ค่าน้ำมันก็เกือบ8พันบาทแล้วครับ ระยะทางไปกลับเกือบๆ 900 กว่าโล และเที่ยวแถวนั้นอีก เข้ามาตอนในตัวจังหวัดเพชรบูรณ์อีก ค่าอาหารตั้งแต่ออกเดินทาง หิวก็แวะปั้ม ก็อาหารร้านอาหารในปั้มน้ำมัน เข้า7/11 แวะซื้อข้าวเหนียวหมู ข้าวเหนียวไก่ย่าง ออกตั้งแต่เช้า ถึงเขาค้อก็ 4-5 โมงเย็น ก็กินอาหารที่รีสอร์ทที่เขาค้อ ค่าอาหารอีก 5พันบาท ค่าที่พักที่เขาค้อ 4,200 บาท ค่าโรงแรมในตัวเมืองเพชรบูรณ์อีก 1000 บาท รวมค่าใช้จ่ายตลอดทริปการเดินทาง เกือบ2หมื่นบาท ไม่นับซื้อของฝาก กลับมาบ้านอีก

ความรู้สึกเมื่อได้มาถึง

ความรู้สึกเมื่อได้ถึงเขาค้อ ตลอดทางที่ขับรถขึ้นเขาค้อ ได้เห็นต้นไม้ป่าเขาอันเขียวขจีตลอด 2 ข้างทาง ให้ความรู้สึกที่สบายตา รู้สึกผ่อนคลาย ได้พักสายตา สีเขียวๆของต้นไม้มันสบายตาดีๆ นี่เอง เส้นทางนี้ไม่แนะนำให้ไปฤดูฝนนะครับ แต่ต้องระวังอย่าง เส้นทางนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนตลอดทั้งปี บางเดือน ก็ต้องมีการปิดช่องทางจราจรเพื่อซ่อมแซมถนน เอาไว้รองรับนักท่องเที่ยว

เส้นทางการเดินทาง

การเดินทาง สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวนะครับ จากทริปล่าสุด ผมใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางไปเก็บ สตรอว์เบอร์รี่ที่เขาค้อ ระยะทางขาไป เกือบๆ 500 กิโลเมตร ขากลับก็อีก 500 กิโลเมตร รวมๆ แล้ว ขับไปขับกลับ เป็นพันกิโลเมตรเห็นจะได้ แต่ถ้าเพื่อนๆ ที่อยู่กรุงเทพฯอยากจะมาเที่ยว สามารถนั่งรถตู้จากกรุงเทพฯ แล้วไปลงยังจังหวัดเพชรบูรณ์ได้ครับ หรือจะเช่าเหมารถตู้มากับเพื่อนๆ หรือครอบครัวก็ได้นะครับ เสียค่าเช่ารถตู้ตลอดการเดินทาง เสียค่าที่พัก ค่ากินอาหารต่างหากจากค่าเช่ารถตู้