4 ไลฟ์สไตล์ สาวมั่นรับปี 2024

ไลฟ์สไตล์ สาวมั่น

หนังสือ “เรื่องนี้พี่บอกเธอคนเดียว” เป็นหนังสือที่ซ่อนตัวอยู่ในกองดองตั้งแต่ปีก่อน แต่ถูกหยิบมาอ่านเป็นเล่มแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นเล่มที่อ่านแล้วถูกจังหวะมาก เพราะฉันกำลังอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองพอดี หนังสือเล่มนี้เป้าหมายหลักแล้ว  คุณนิมอิมซุกนักเขียน ต้องการเขียนให้กลุ่มสาววัยยี่สิบ ซึ่งได้แนะนำวิธีการต่างๆ ที่จำเป็นต้องทำตั้งแต่วัยนี้เพื่อเตรียมพร้อมเป็นสาววัยสามสิบที่มีชีวิตชีวา แม้ฉันจะผ่านวัยยี่สิบไปแล้วแต่ทุกคำแนะนำที่หนังสือได้กล่าวไว้ ก็ยังคงนำไปใช้ได้อยู่ วันนี้ฉันจึงอยากแนะนำ  4 ไลฟ์สไตล์ที่จะทำให้เราเป็นสาวมั่นรับปี 2024 มีอะไรบ้างนั้นมาดูกันค่ะ

ไลฟ์สใตล์ผู้ดี

ประโยคหนึ่งในหนังสือที่ฉันสะดุดใจมากที่สุดคือ  “ปฏิบัติต่อตัวเองให้เหมือนเป็นผู้ดี” ฉันเคยอคติกับคำว่าผู้ดี เพราะทำให้นึกถึงสมัยเด็กๆ ที่เรามักจะดูแคลนกับคำนี้มาก หากใครโดนด่าว่าผู้ดีนั้นก็แปลว่าเป็นคนที่ปลอม เช่นทำตัวเป็นคนรวย ทั้งๆที่ความจริงไม่รวยเท่าไหร่ เป็นต้น แต่เมื่อฉันได้อ่านหนังสือเล่มนี้ทำให้ฉันรู้สึกกับคำนี้เปลี่ยนไป มันทำให้ฉันเกิดอยากเป็นผู้ดี การปฏิบัติตัวเหมือนเป็นผู้ดีต้องทำอย่างไรล่ะ ในที่นี่คือการทำตัวเองให้เป็นคนที่มีมารยาททางสังคมที่ดี การแต่งตัวให้ดูดี ถูกกาลเทศะ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นของแพง แต่เมื่อแต่งแล้วดูดีมีรสนิยม การพูดจากับผู้คนด้วยคำพูดที่ดี ปฏิบัติกับผู้อื่นอย่างให้เกียรติ รวมไปถึงการเป็นคนมีทัศนคติที่ดีด้วย

ไลฟ์สไตล์เจ้าหญิง

ประโยคหนึ่งในหนังสือที่ฉันสะดุดใจเป็นอันดับที่สองคือ “จงมีมือของเจ้าหญิงและมีเท้าของคนรับใช้” หากไม่อ่านเนื้อความจากหนังสือเราคงเดาไม่ได้เลยว่า ประโยคนี้มีความหมายว่าอย่างไร ในหนังสือได้อธิบายไว้ว่า “การทำงานด้วยมือคือการทำงานที่รับมาโดยไม่มีการตอบโต้” นั้นคือการทำงานที่ได้รับมาอย่างขยันขันแข็ง แต่ไม่ได้แปลว่าทำงานจนสูญเสียความเป็นตัวเอง ต้องรู้จักการทำงานที่ไม่เหนื่อยแต่มีชีวิตที่ดี การทำ งานที่ขยันขันแข็งไม่ใช่การใช้มือทำทุกอย่าง แต่ใช้เท้าวิ่งไปต่างหาก ซึ่งการทำงานด้วยเท้าคือ “การปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง” หาหนทางของตัวเอง กระตือรือร้น และก้าวไปไม่หยุด

ไลฟ์สไตล์ผู้หญิงที่มีแต่ความสุข

ประโยคหนึ่งในหนังสือที่ฉันสะดุดใจเป็นอันดับที่สามคือ “อยากได้ปลาดีก็ต้องลงเล่นในน้ำสะอาด” และ “อยู่ใกล้คนบ้าที่มีความสุขดีกว่าคลุกคลีกับนักปรัชญาอมทุกข์” ทั้งสองประโยคนี้สอนเราว่า หากอยากให้ตัวเองเป็นคนแบบไหนให้เข้าหาคนแบบนั้น เช่น หากเราอยากเป็นคนเก่ง ก็ควรเข้าหาคนเก่งๆ ในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนนั้นก่อนอื่นเราจำเป็นต้องตัดความอคติทุกอย่างออกไปก่อน ไม่ว่าจะเป็นความอิจฉา หรือคิดว่าพวกเขาเป็นศัตรู อย่าคิดว่าตัวเองเหนือกว่า แต่จงเลือกเข้าหาคนที่ดีกว่าตัวเอง เพื่อการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง ไม่ใช่เพื่อหวังตักตวงเอาประโยชน์จากเขาเพียงฝ่ายเดียว นอกจากนั้นหากเราอยากมีความสุขก็ควรเป็นเพื่อนกับคนที่คิดบวก แม้ว่าเขาจะเป็นคนบ้า แต่ถ้าอยู่ใกล้แล้วทำให้คิดบวกนั้นก็ย่อมดีกว่า อยู่กับนักปรัชญาที่ชอบอมทุกข์ซึ่งทำให้เราต้องทุกข์ไปกับเขาด้วย

ไลฟ์สไตล์นักอ่าน

ประโยคหนึ่งในหนังสือที่ฉันสะดุดใจเป็นอันดับที่สี่คือ “Reader เท่านั้นที่จะเป็น Leader ได้” ผู้เขียนได้กล่าวไว้ว่าถ้าอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้ไปร้านหนังสือ เลือกหนังสือดีๆสักเล่มมาอ่าน และพยายามหาหนังสือในดวงใจให้เจอ ซึ่งไม่จำเป็นว่าต้องเป็นหนังสือที่นักเขียนชื่อดัง หนังสือราคาแพง หรือหนังสือที่ใครๆก็อ่าน เพราะหนังสือในดวงใจของคนเราบางเล่มอาจเป็นเพียงหนังสือธรรมดา ที่ไม่มีใครรู้จักก็เป็นได้ ขอแค่เป็นหนังสือที่อ่านแล้วทำให้เราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ก็ถือว่าเป็นหนังสือที่ดี ซึ่งการอ่านหนังสือถือเป็นอีกวิธีหนึ่งของการปฏิบัติต่อตนเองให้เหมือนผู้ดี เพราะเป็นการให้สิ่งดีๆ มีสาระต่อตัวเอง

สาวมั่น

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ทุกคนเลือกได้หรือยังค่ะว่าปี 2024 นี้อยากเป็นสาวมั่นที่มีไลฟ์สไตล์อย่างไร อย่าลืมนะคะว่าเราสามารถออกแบบและเลือกชีวิตให้ตัวเองได้ อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างไร เรามาเริ่มตั้งแต่วันนี้เลยดีกว่าค่ะ เพราะถ้ารอต่อไปกว่าจะถึง  30 – 40 – 50 อาจจะสายไปเสียแล้ว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *